มาต่อตอนที่สองของเรื่องรหัสเม็ดมีดกันเลยครับ เราๆท่านๆแม้นจะคุ้นชินกับการ เรียกรหัสเม็ดมีดนี้กันบ่อยๆ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจความหมายลึกซึ้งพอ ในตอนที่แล้วได้อธิบายไปถึงส่วนของตัวอักษรทั้ง 4 ที่อธิบายภาพรวมให้เราได้เห็นลักษณะของรูปทรงเม็ดมีด ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงอะไร มีดบวกหรือลบ มีลายร่องหักเศษไหม มีรูไหม แถมด้วยความละเอียดของการคุมขนาดเม็ดมีด ในส่วนครึ่งหลังนี้จะเกี่ยวกับตัวเลข ซึ่งแน่นอนก็น่าจะเป็นการอธิบายความให้เห็นถึงขนาดของเม็ดมีด เรามาดูไปพร้อมๆกันดีกว่าครับ

ตัวเลขสองหลักแรก แสดงถึงความยาวคมตัดของเม็ดมีดที่เป็นเส้นสัมผัสวงกลม IC ตามทรงของเม็ดมีด ไม่ว่าจะ 80, 55 หรือ 35องศา IC ในอดีตนั้นมาจากหน่วยนิ้ว พอมาคำนวณเป็นความยาวคมตัดจะได้ตัวเลขมีทศนิยม เช่น ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส IC 9.525 ความยาวคมตัดก็จะเท่ากันคือ 9.525 จึงใช้เลขกลมๆ 09 เป็นสัญลักษณ์แทน ดังนั้นทรงมีดที่เหมือนกันระหว่าง SNMG12xxxx กับ SNMG09xxxx ก็หมายถึงขนาดของเม็ดมีดที่ต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อระยะกินลึก ความแข็งแรงของเม็ดมีด ที่แตกต่างกัน

ตัวเลขสองหลักถัดมา จะเป็นตัวเลขแสดงถึงความหนาของเม็ดมีด ซึ่งก็มาจากหน่วยนิ้วอีกเช่นกัน ความหนานี้จะนับจากพื้นไปจนถึงปลายคมตัด บางเม็ดมีดจะมีส่วนที่สูงกว่าคมตัดซึ่งเป็นส่วนของร่องหักเศษ ก็ไม่ได้เอามาคิดความหนา ที่เราพบเห็นกันบ่อยๆก็จะเป็น 02 03 T3 04 06 ไม่ใช่ว่าทุกรูปทรงจะมีความหนาทุกขนาดครับ แต่จะเป็นไปตามสัดส่วนของความยาวคมตัด และทรงมีด

ตัวเลขสองหลักสุดท้ายก็คือขนาดของมุมมน R ที่เราได้เรียนรู้กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทำให้เราสามารถระบุได้คร่าวๆว่าเม็ดมีดนั้น ช่วยให้ได้ความเรียบผิวตามที่ต้องการพอได้ไหม การหักเศษจะดีขึ้นไหมถ้าเปลี่ยนมุมมนเม็ดมีด สามารถตามไปอ่านบทความย้อนหลังของมุมมน R ที่มีผลกระทบกับชิ้นงาน

หลังตัวเลขสองหลักสุดท้าย จะไม่มีการกำหนดรูปแบบพิเศษ แต่จะเป็นส่วนที่ให้อิสระกับผู้ผลิตในการบอกถึงลักษณะของร่องคายเศษ ซึ่งแต่ละผู้ผลิตก็มีวิธืการออกแบบที่แตกต่างกัน จะเรียกว่าเป็นศิลปะผสมวิทยาศาสตร์ก็ได้เพราะ ถ้าเราดูรูปลายร่องคายเศษของเม็ดมีด จะเห็นว่าบางเม็ดก็มีความสวยงามซ่อนอยู่ ดูคล้ายๆกับลาย กนก ของไทย ซึ่งความหมายของตัวอักษรหรือตัวเลข หลังตัวเลข 6 หลักนี้ จะมีความหมายกันยังไง ไว้ติดตามกันในบทความหน้าครับ สำหรับวันนี้ผมว่าหลายๆท่านจะเริ่มเข้าใจว่าระหว่าง CNMG120408 กับ VPET1103005 นั้น ต่างกันยังไง ยังไงลองฝึกเทียบกันจากตารางต่างๆกันดูครับ